วันอังคารที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2560

เครปเค้กสายรุ้ง


 เครปเค้กสายรุ้ง

          เครปเค้กหน้าตาธรรมดา ๆ ราดซอสรสเปรี้ยวดูเกร่อเกินไปเนอะ ถ้าทำเป็นเค้กวันเกิดก็คงเก๋ไม่พอ ลองเปลี่ยนเป็นเครปเค้กสายรุ้งดีกว่าค่ะ แค่เห็นแวบแรกก็สะดุดตาแล้วทำให้อยากหม่ำขึ้นมาทันที อีกทั้งวิธีทำเครปเค้กสายรุ้งไม่ยากอย่างที่คิด แค่ใส่สีผสมอาหารไปในแป้งแต่ละชั้นเท่านั้นเองซึ่งต้องใช้เวลาและความอดทนกันเล็กน้อย แต่คุ้มค่าเหมาะเป็นเค้กวันเกิดแน่นอน 

ส่วนผสม แป้งเครป

          • แป้งเค้กสำเร็จรูป 230 กรัม
          • น้ำตาลทราย 120 กรัม
          • เนยสด 150 กรัม
          • นมสด 600 กรัม
          • ไข่ไก่ 8 ฟอง
          • วิปปิ้งครีม 400 กรัม
          • สีผสมอาหาร  6 สี ตามชอบ

ส่วนผสม ซอสสตรอว์เบอร์รี

          • สตรอว์เบอร์รีสดปั่นละเอียด
          • น้ำตาลทราย
          • แป้งข้าวโพด

วิธีทำ เครปเค้ก

          1. นำนมสดไปต้มให้เดือดแล้วยกลงพักไว้ให้เย็น
          2. นำเนยสดไปละลาย ถ้าใช้ไมโครเวฟให้นำเข้าไปอุ่นประมาณ 1 นาที ถ้ายังไม่ละลายให้อุ่นต่ออีก 30 วินาที ส่วนถ้าบ้านใครไม่มีไมโครเวฟ ให้ตั้งน้ำเปล่าแล้วเอาอ่างที่ทนความร้อนวางทับแล้วละลายเนยสดบนอ่างแทน
          3. ตอกไข่ไก่ลงอ่างผสมแล้วตีพอเข้ากัน ใส่น้ำตาลทรายลงไปแล้วตีผสมต่อจนน้ำตาลทรายละลาย ทยอยใส่แป้งเค้กสำเร็จรูปลงไป โดยทยอยใส่ 2-3 รอบ ค่อย ๆ ใส่นมสดที่พักไว้จนเย็นแล้ว ทยอยใส่ 2-3 รอบ เหมือนกัน ใส่เนยละลายที่พักไว้จนเย็นแล้วลงไป คนผสมต่อให้เข้ากัน
          4. นำส่วนผสมไปกรอง (หากไม่กรองส่วนผสมจะทำให้เวลาทอดจะมีเม็ดแป้งอยู่ด้วย แล้วจะออกมาไม่สวย) เสร็จแล้วนำไปแช่ตู้เย็นไว้ 1 คืน
          5. วันรุ่งขึ้นนำส่วนผสมแป้งเครปออกจากตู้เย็นเพื่อเตรียมใส่สีลงไป (ก่อนผสมสีลงไปควรกวนแป้งเครปให้เข้ากันอีกรอบ) เราทำทั้งหมด 6 สี ใส่สีผสมอาหารลงในส่วนผสมแป้งสีละ 1 ถ้วย เราจะทอดแป้งครั้งละ 1/4 ถ้วย จะได้ทั้งหมด 24 แผ่น จริง ๆ สูตรนี้จะได้ 25 แผ่น เพราะฉะนั้นเราจะเหลือแป้งเครป 1 แผ่น ไว้ทดลองทำในกระทะเทฟลอนก่อน
          6. มาทอดแป้งเครปกัน โดยทาเนยสดบาง ๆ บนกระทะเทฟลอน เริ่มจากเอาส่วนผสมแป้งที่เหลือจากการตวงทั้ง 6 สี มาลองทอดดูก่อน โดยใช้ไฟอ่อนค่ะ ไฟแรงมากจะไม่ออกมาเป็นแผ่น ทดลองเสร็จแล้วจึงทอดแป้งเครปจนครบ 24 แผ่น พักแป้งเครปที่ทอดทั้งหมดไว้ให้เย็น ใครกลัวแป้งเครปติดกันเอากระดาษไขรองชั้นต่อชั้นก็ได้
          7. ระหว่างรอแป้งเครปเย็นมาตีวิปปิ้งครีมกัน (ถ้าชอบวิปปิ้งครีมเยอะก็เพิ่มปริมาณลงไปได้เลยไม่ว่ากัน) ตีแค่พอยอดอ่อนก็พอ ถ้าวิปปิ้งครีมยอดแข็งมากจะปาดแป้งเครปลำบาก
          8. มาประกอบเครปเค้กสายรุ้งกัน (ใครมีจานหมุนสำหรับแต่งเค้กเอามาใช้ได้เลยนะคะ เราไม่มีก็เอาเก้าอี้ในห้องที่หมุนได้มาใช้แทน) วางแผ่นแป้งเครปสลับกับวิปปิ้งครีมค่ะ โดยวางไล่ทีละสี ปาดครีมให้พอดี ๆ นะคะ หากปาดครีมน้อยไปเวลาเรากินจะเหมือนมีแต่แป้ง แต่ถ้าปาดมากไปก็เลี่ยน

วิธีทำ
ซอสสตรอว์เบอร์รี

          • นำสตรอว์เบอร์รีสดปั่นละเอียดไปต้มกับน้ำตาลทราย ใส่แป้งข้าวโพดลงไปนิดหน่อย

เค้กไอศกรีม


เค้กไอศกรีม

          เอาใจคุณแฟนขี้ร้อนอยากกินของเย็นในวันเกิดด้วยเค้กไอศกรีมดีกว่าค่ะ เค้กไอศกรีมใส่ไอเดียทำเป็นลายตารางหมากรุก เนื้อเค้กมีการผสมผสานรสโกโก้และรสวานิลลาอย่างลงตัว น่าหม่ำขึ้นเยอะ ทำเองที่บ้านง่าย ๆ มีแค่ตู้เย็นก็ทำเค้กไอศกรีมแสนอร่อยได้แล้ว รับรองว่าจะเป็นเค้กวันเกิดที่น่าประทับใจแน่นอน 
ส่วนผสม เค้กไอศกรีมรสวานิลลา

          • วิปปิ้งครีมแบบผงสำเร็จรูป 145 กรัม
          • นมสด
          • นมข้นหวาน 75 กรัม

ส่วนผสม เค้กไอศกรีมรสโกโก้

          • วิปปิ้งครีมแบบผงสำเร็จรูป 210 กรัม
          • นมสด
          • นมข้นหวาน 130 กรัม
          • ผงโกโก้ 2 ช้อนโต๊ะ

วัคถุดิบสำหรับตกแต่ง

          • ผงโกโก้
          • น้ำตาลไอซิ่ง

วิธีทำ

          1. ตีผสมนมสดกับวิปปิ้งครีมแบบผงจนวิปปิ้งครีมตั้งยอดแข็ง
          2.มาทำในส่วนของไอศกรีมรสโกโก้กันก่อน โดยเอาวิปปิ้งครีมที่ตีแล้วแบ่งออกมาผสมกับนมข้นหวานและผงโกโก้ ตีให้เข้ากันจนเนียน
          3. มาทำไอศกรีมรสวานิลลากัน ผสมวิปปิ้งครีมตามสูตรกับนมข้นหวาน ตักส่วนผสมแต่ละสีใส่ถุงบีบ บีบส่วนผสมแต่ละสีลงในพิมพ์ (โดยใช้พิมพ์แบบที่ถอดก้นได้นะคะ เวลาถอดจะได้ไม่ลำบาก) โดยบีบสลับสี (ช็อกโกแลต วานิลลา และช็อกโกแลต) บีบแล้วอย่าลืมเกลี่ยส่วนผสมให้เรียบ ๆ ด้วย 
          4. ต่อมาบีบชั้นที่สอง (วานิลลา ช็อกโกแลต และวานิลลา) 
          5. จากนั้นบีบชั้นที่สาม (ช็อกโกแลต วานิลลา และช็อกโกแลต) 
          6. เสร็จแล้วเอาไปแช่เย็นอย่างน้อย 4 ชั่วโมง ถ้าเอาออกจากพิมพ์ยากให้เอาผ้าชุบน้ำอุ่นมาอังพิมพ์ค่ะ จะทำให้ถอดง่ายขึ้น แล้วเจาะกระดาษตามรูปตารางหมากรุก โดยโรยผงโกโก้และน้ำตาลไอซิ่งสลับกัน

The Mask Singer หน้ากากนักร้อง



The Mask Singer หน้ากากนักร้อง หรือ เดอะแมสก์ซิงเกอร์ หน้ากากนักร้องเป็นรายการโทรทัศน์ประเภทเลียลิตี้เกมโชว์และมิวสิกโชว์ โดยซื้อลิขสิทธิ์รูปแบบรายการ "Miseuteori Eumaksyo Bokmyeon-gawang" (เกาหลี미스터리 음악쇼 복면가왕) (อังกฤษMystery Music Show: King of Mask Singer) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรายการ "Ilbam" (เกาหลี일밤) (อังกฤษSunday Night) ที่ เป็นลิขสิทธิ์ของบริษัท Munhwa Broadcasting Corporation (MBC) จากประเทศเกาหลีใต้ นำมาทำเป็นรูปแบบรายการของประเทศไทย ผลิตรายการโดยบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) เริ่มออกอากาศครั้งแรกในวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2559 แล้วออกอากาศอยู่จนถึงปัจจุบัน ออกอากาศทุกวันพฤหัสบดี เวลา 20.00 - 21.45 น. ทางสถานีโทรทัศน์ช่องเวิร์คพอยท์ (โทรทัศน์ระบบดิจิตอลหมายเลข 23) ดำเนินรายการโดย กันต์ กันตถาวร (ฟลุค) โดยเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน ทางสถานีได้นำรายการกลับมาออกอากาศอีกครั้งโดยเป็นการรีรันเฉพาะตอนแรกตอนเดียวก่อนอีกหนึ่งครั้ง เนื่องมาจากการสวรรคตของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 จึงทำให้รายการต้องงดออกอากาศตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ดังนั้นรายการจึงเริ่มนับการออกอากาศตอนที่ 1 ใหม่ในวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 และตอนถัดไปในแต่ละสัปดาห์เป็นปกติ

นครนิวยอร์ก


นครนิวยอร์ก หรือที่นิยมเรียกกันว่า นิวยอร์กซิตี (อังกฤษNew York City; NYC) เป็นเมืองใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา เป็นเมืองที่เจริญที่สุดในโลก เป็นมหานครเอกของโลก จัดได้ว่าเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การเงิน วัฒนธรรม บันเทิง ที่สำคัญที่สุดของโลก เป็นเมืองที่มี ตึกระฟ้า ตึกสูงมาก ตลอดระยะเวลา 150 ปี และยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติ
นิวยอร์กตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา ประกอบด้วย 5 เขตปกครองที่เรียกว่า โบโรฮ์ (Borough) คือ เดอะบรองซ์ บรูคลิน แมนแฮตตัน ควีนส์ และสแตตัน ไอส์แลนด์ ประชากรรวมทั้งหมดประมาณ 8,274,527 คน[1 ภายในพื้นที่ 790 ตร.กม. (305 ตร.ไมล์)นอกจากจะเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดแล้ว สัดส่วนประชากรต่อพื้นที่ยังถือว่าหนาแน่นที่สุดในสหรัฐอเมริกา
ลักษณะเฉพาะของนิวยอร์กที่แตกต่างไปจากเมืองอื่นของสหรัฐอเมริกา มีให้เห็นหลายอย่าง เริ่มตั้งแต่ระบบขนส่งที่มีโครงข่ายขนาดใหญ่ ความเหมือนและความแตกต่างกันของประชากร ใน ค.ศ. 2005 มีภาษาประมาณ 170 ภาษาที่ใช้กันในเมืองแห่งนี้ และ 36% ของประชากรไม่ได้เกิดและโตในสหรัฐอเมริกา[7][8] ระบบรถไฟใต้ดินนครนิวยอร์กที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง บวกกับการจราจรและผู้คนที่พลุกพล่านอยู่ตลอดเวลา จึงมีคำเปรียบเปรยถึงนิวยอร์กว่าเป็น “เมืองที่ไม่เคยหลับใหล” ขณะเดียวกันเมืองแห่งนี้ยังมีชื่อเล่นอื่นๆ อีกด้วยอย่าง “กอร์ทเทม” (Gotham) และ “บิ๊กแอปเปิล” (Big Apple)
ชาวดัชต์ถือเป็นผู้คนกลุ่มแรกที่เข้ามาเริ่มปักหลักทำการค้าใน ค.ศ. 1624 ซึ่งนั่นได้ทำให้เมืองแห่งนี้เป็นศูนย์กลางของสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ ค.ศ. 1785 จนกระทั่ง ค.ศ. 1790[11] และเคยเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลกตั้งแต่ ค.ศ. 1790 เทพีเสรีภาพ (Statue of Liberty) ได้ให้การตอนรับผู้มาเยือนหลายล้านคน ที่เดินทางมายังสหรัฐอเมริกา ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 จนกระทั่งต้นศตวรรษที่ 20 วอลล์สตรีท (Wall Street) ที่ตั้งอยู่ในแมนแฮตตันตอนใต้ ก็ถือเป็นศูนย์กลางที่มีอิทธิพลต่อระบบการเงินของโลกมาตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นที่ตั้งของตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE: New York Stock Exchange) ในปัจจุบัน นิวยอร์กมีสถานที่สำคัญที่มีชื่อเสียงและเป็นสัญลักษณ์ของโลกหลายแห่ง รวมทั้งตึกที่เคยสูงที่สุดในโลกอย่างตึกเอ็มไพร์สเตท (Empire State Building)
นิวยอร์กยังเป็นบ้านเกิดของวัฒนธรรมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นงานวรรณกรรมและทัศนศิลป์ที่เรียกว่า ฮาเล็ม เรอเนสซองค์ (Harlem Renaissance) งานภาพเขียนที่เรียกว่าศิลปะกึ่งนามธรรม (Abstract Expressionism) หรือที่รู้จักกันว่า “นิวยอร์กสคูล” วัฒนธรรมทางดนตรีอย่าง ฮิปฮอป พังค์ ซัลซ่า และดิสโก้ รวมทั้งยังเป็นบ้านเกิดของละครบรอดเวย์อีกด้วย

เนื้อเพลง ยินดีที่ไม่รู้จัก

เพลง ยินดีที่ไม่รู้จัก
ศิลปิน ทเวนตี้ไฟว์ อาวเวอร์ส

เพลงประกอบภาพยนตร์ กวน มึน โฮ

ไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร ไม่รู้ว่าฉันเป็นใคร
ไม่รู้ว่าโลกความจริง ของเรานั้นเป็นอย่างไร
สิ่งที่สำคัญที่สุด อาจไม่สำคัญเท่าไร
เท่าวันที่เราได้เจอ ได้คุยได้อยู่ใกล้กัน

ให้เธอลืมโลกที่กว้างใหญ่
ลืมมันไปให้เหลือแค่เพียงเรา
เก็บทุกความสุข ให้เหมือนวันสุดท้าย

ยินดีที่ไม่รู้จัก ไม่รู้จัก แค่รู้ว่ารักก็พอใจ
แค่คำว่าไม่รู้จัก ไม่รู้จัก
รักเราก็ไม่ได้น้อยลงจริงไหม
แค่มีเธอใกล้ๆ มันก็ใช่ที่สุดแล้ว

ปล่อยใจให้ล่องลอยไป ปล่อยตัวให้ทำตามใจ
ปล่อยมันให้เป็นไปเอง ไม่ต้องคาดหวังอะไร
ไม่มีที่เรียกว่าผิด ถ้าเราไม่คิดอะไร
ให้เธอได้ทำทุกสิ่ง ที่เธอต้องการสักวัน

ให้เธอลืมโลกที่กว้างใหญ่
ลืมมันไปให้เหลือแค่เพียงเรา
เก็บทุกความสุข ให้เหมือนวันสุดท้าย

ยินดีที่ไม่รู้จัก ไม่รู้จัก แค่รู้ว่ารักก็พอใจ
แค่คำว่าไม่รู้จัก ไม่รู้จัก
รักเราก็ไม่ได้น้อยลงจริงไหม
แค่มีเธอใกล้ๆ มันก็ใช่ที่สุดแล้ว

ยินดีที่ไม่รู้จัก ไม่รู้จัก แค่รู้ว่ารักก็พอใจ
แค่คำว่าไม่รู้จัก ไม่รู้จัก
รักเราก็ไม่ได้น้อยลงจริงไหม
แค่มีเธอใกล้ๆ มันก็ใช่ที่สุดแล้ว

ยินดีที่ไม่รู้จัก ไม่รู้จัก แค่รู้ว่ารักก็พอใจ
แค่คำว่าไม่รู้จัก ไม่รู้จัก
รักเราก็ไม่ได้น้อยลงจริงไหม
แค่มีเธอใกล้ๆ มันก็ใช่ที่สุดแล้ว

เนื้อเพลง แค่ได้รักเธอ-7 days crazy



7 days crazy – แค่ได้รักเธอ
ฉันเผชิญกับความจริง ที่ไม่มีเธอวันนี้
รู้ตัวดีว่าเราต่างกันสักเท่าไหร่
เธอนั้นเป็นดั่งนางฟ้า ฉันมันคนธรรมดา
ยิ่งไขว่คว้าเท่าไหร่ตัวเธอยิ่งแสนไกล
เปรียบเทียบกับเขามันคนละชั้น ต่างกันมากไป
ทำดีแค่ไหน ทำดีเท่าไร ก็ไม่มีวัน
แค่ได้รักเธอ ก็ดีแค่ไหน
พยายามอีกสักเท่าไร นานเท่าไร
ก็คงไม่ได้เธอมาอยู่เคียงข้างกัน คงเป็นแค่ฝัน
เรามันแค่คนธรรมดา ธรรมดา ไม่มีสิทธิ์จะรักนางฟ้า
แม้เนิ่นนานจากวันนั้น เหมือนว่าเรายิ่งห่างกัน
รักที่มีต่อกัน ก็ยังไม่หายไป
เปรียบเทียบกับเขามันคนละชั้น ต่างกันมากไป
ทำดีแค่ไหน ทำดีเท่าไร ก็ไม่มีวัน
แค่ได้รักเธอ ก็ดีแค่ไหน
พยายามอีกสักเท่าไร นานเท่าไร
ก็คงไม่ได้เธอมาอยู่เคียงข้างกัน คงเป็นแค่ฝัน
เรามันแค่คนธรรมดา ธรรมดา ไม่มีสิทธิ์จะรักนางฟ้า
ต้องยอมรับว่าเราอยู่คนละโลกกัน
คำว่ารักคงเป็นแค่ฝันไป
เมื่อลืมตาตื่นมาก็เข้าใจ ระหว่างเรานั้น ไม่มีวัน
แค่ได้รักเธอ ก็ดีแค่ไหน
พยายามอีกสักเท่าไร นานเท่าไร
ก็คงไม่ได้เธอมาอยู่เคียงข้างกัน คงเป็นแค่ฝัน
เรามันแค่คนธรรมดา ธรรมดา ไม่มีสิทธิ์จะรักนางฟ้า
ก็ดีแค่ไหน พยายามอีกสักเท่าไร นานเท่าไร
ก็คงไม่ได้เธอมาอยู่เคียงข้างกัน คงเป็นแค่ฝัน
เรามันแค่คนธรรมดา ธรรมดา ไม่มีสิทธิ์จะรักนางฟ้า

น้ำดื่มดีต่อสุขภาพอย่างไร?


คนเราสามารถมีชีวิตอยู่ได้เป็นอาทิตย์ๆ หากปราศจากอาหารแต่เราจะมีชีวิตอยู่ได้เพียงไม่กี่วันเท่านั้นหากปราศจากน้ำ เพราะน้ำเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของร่างกายที่มีอยู่ทั้งในเลือดและน้ำย่อย แล้วยังช่วยในการควบคุมอุณภูมิของร่างกายด้วย

ดื่มน้ำวันละกี่ลิตร?

ผู้หญิง ควรดื่มวันละ 2.2 ลิตร (ประมาณ 9 แก้ว)
ผู้ชาย ควรดื่มวันละ 3 ลิตร (ประมาณ 13 แก้ว)

ดื่มน้ำตอนใหนดี ?

  • 1 แก้ว ตื่นนอน เพื่อลดความเข้มข้นของเลีอดและช่วยกระตุ้นการทำงานของอวัยวะภายในให้ตื่นตัว
  • 2 แก้ว 9-10 โมงเช้า ชำระของเสียออกจากร่างกาย
  • 1/2 แก้ว ก่อนอาหาร 15 นาที ช่วยให้ระบบการย่อยดีขึ้น ผู้ที่ลดน้ำหนักสามารถดื่มน้ำ 1-2 แก้ว 30 นาทีก่อนมื้ออาหาร
  • 1/2 แก้ว หลังอาหาร 40 นาที ช่วยระบบย่อยอาหาร แต่ไม่ควรดื่มน้ำเกิน 1 แก้ว เพราะจะไปเจือจางน้ำย่อยในกระเพาะอาหารและไม่ควรจิบน้ำไปทานข้าวไป
  • ระหว่างวันให้จิบน้ำตลอดวันเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
  • 1 แก้ว ก่อนเข้านอน ช่วยหลีกเลี่ยงภาวะเส้นเลือดในสมองแตก หรือหัวใจวาย และช่วยชะล้างสิ่งตกค้างในลำไส้และกระเพาะอาหาร แต่ไม่ควรดื่มน้ำมากกว่า 1 แก้ว เพราะจะทำให้ไตทำงานหนักในระหว่างหลับ และตื่นมาปัสสาวะเป็นสาเหตุทำให้นอนหลับไม่สนิท

ภาวะร่างกายขาดน้ำ

ภาวะที่ร่างกายขาดน้ำ หมายถึง ภาวะที่ร่างกายสูญเสียน้ำมากกว่าที่ร่างกายได้รับ ซึ่งถ้าหากขาดน้ำมากๆ และไม่ได้รับการทดแทนอย่างเพียงพอในเวลาที่เหมาะสม ก็อาจจะก่อให้เกิดผลเสียตามมาได้ หรือถ้าหากร่างกายได้รับน้ำมากเกินไปก็จะส่งผลเสียได้เหมือนกัน
ปกติร่างกายเราจะสูญเสียน้ำจากทางเหงื่อ ลมหายใจ และการขับถ่าย นอกจากนี้เรายังสูญเสียเกลือแร่ออกจากร่างกายอีกด้วยในเวลาที่เราขับเหงื่อออกจากร่างกาย โดยเฉพาะในบ้านเราที่มีอากาศร้อนร่างกายก็ยิ่งต้องการน้ำมากขึ้น

ถ้าร่างกายขาดน้ำ สังเกตุอาการดังนี้

  • ปวดศรีษะ ปวดตุ๊บๆเหมือนปวดเกร็งตรงบริเวณขมับ บางครั้งเวลาจับจะเป็นก้อน
  • ปากแห้ง หรือบางทีผิวแห้ง
  • คอแห้ง
  • ร้อนใน เป็นแผลในปาก
  • แขนขาอ่อนแรง
  • สีปัสสาวะจะเหลืองเข้ม

ถ้าดื่มน้ำมากหรือน้อยไปจะเป็นอย่างไร?

ของทุกกอย่างมากไปน้อยไปไม่ดีทั้งสิ้น เช่น บางคนบอกดื่มน้ำเยอะๆแล้วดี ดื่มที 8-10 ลิตรต่อวันนั้นก็มีผลเสียเช่นกัน เพราะว่าจะทำให้สมดุลเกี่ยวกับน้ำและเกลือแร่ของร่างกายมันผิดไปจากที่ควร ซื่งอาจจะส่งผลทำให้เกิดอาการจากการที่มีเกลือแร่ต่ำได้ อย่างเช่น อาจจะมีอาการคลื่นใส้ อาเจียน เวียนศรีษะได้ เป็นต้น
สำหรับคนที่ดื่มน้ำน้อยไป ปัญหาก็คือ น้ำก็ไม่เพียงพอที่จะเอาไปใช้ในกระบวนการเผาผลานของร่างกาย เพราะฉะนั้นระบบต่างๆ ของร่างกายก็ไม่ดี รวมถึงอาจจะเพิ่มความเสี่ยงในการทำให้เกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ทำให้เกิดโรคนิ่วต่างๆได้ เพราะฉะนั้นการดื่มน้ำให้เพียงพอ และเหมาะสมในแต่ละวันนั้น จะเป็นเรื่องดีต่อสุขภาพ

หน้าร้อนไม่ควรดื่มเครื่องดื่มประเภทใหน?

กาแฟ ชาหรือว่าแอลกอฮอล์ ถือว่าเป็นข้อห้ามในอากาศที่ร้อนมาก เพราะสิ่งเหล่านี้จะดึงน้ำออกไปจากร่างกาย เพราะถ้าเราดื่มกาแฟจะทำให้เราปัสสาวะบ่อย ในการปัสสาวะหนึ่งครั้งเราจะเสียน้ำไปประมาณ 200 มิลลิลิตร ดื่มกาแฟเท่าใหร่มันก็จะดึงน้ำออกไปเป็นสองเท่า ยิ่งดื่มมากยิ่งทำให้เสียน้ำมาก
การดื่มน้ำเย็นๆ ในอากาศที่ร้อนมากๆ พอดื่มเข้าไปร่างกายเราจะใช้เวลาในการปรับอุณหภูมิให้เท่ากับอุณหภูมิของร่างกายเพื่อที่จะดูดซึมเอาไปใช้ได้ดี แต่ถ้าอุณหภูมิมันปรับไม่ได้ จะทำให้ร่างกายดูดซึมน้ำได้แค่บางส่วนและน้ำก็จะออกไปทางระบบทางเดินอาหารและทางปัสสาวะ ทำให้ร่างกายเสียน้ำ และเกิดปากแห้ง ผิวแห้ง ปัสสาวะเหลืองขึ้นได้

สาเหตุที่ต้องดื่มน้ำ 2 ลิตรต่อวัน

ร่างกายจะใช้น้ำสำหรับกระบวนการเผาผลานต่างๆ ในร่างกายประมาณครึ่งลิตร และอีกครึ่งลิตรนั้นเราจะเสียไปกับน้ำที่มองไม่เห็น เช่น เหงื่อระเหยออกไป ส่วนอีก 1 ลิตร จะเป็นน้ำปัสสาวะที่เราจะต้องขับทิ้งในแต่วัน เพราะฉะนั้นเพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งาน ปริมาณน้ำดื่มโดยประมาณควรจะเป็น 2 ลิตรต่อวัน แต่สำหรับบางคนซึ่งเสียน้ำไปมากกว่านั้น เช่นกรณี เสียเหงื่อเยอะ ทำงานกลางแจ้ง หรือว่าเล่นกีฬา ก็ต้องดื่มให้มากกว่านั้นเพื่อชดเชยกับสิ่งที่เสียไป